เอกสารใบกำกับภาษี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกสารที่เป็นหัวใจของคนทำธุรกิจทุกคน (โดยเฉพาะคนที่อยู่ในระบบ VAT) ที่ผู้ประกอบการทุกท่านควรทำความคุ้นเคยและเอาใจใส่ ว่าใบกำกับภาษีนั้นคืออะไร และมาประเมินกันต่อว่าเราออกเอกสารนี้ได้ไหม ออกได้เมื่อไหร่ เอกสารใบกำกับภาษีนั้นประกอบด้วยรายละเอียดอะไรบ้าง
รู้ไหมว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่ออกใบกำกับภาษีได้”
สำหรับใครที่ต้องการอ่านเฉพาะบางหัวข้อ สามารถกดเลือกอ่านได้ที่นี่ครับ
- ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร
- แล้วภาษีมูลค่าเพิ่มถูกนำไปใช้ประโยชน์อะไรกับประชาชน
- ใครเป็นคนที่มีหน้าที่จัดทำใบกำกับภาษี
- ออกใบกำกับภาษีได้เมื่อไหร่
- ผู้ที่ห้ามไม่ให้ออกใบกำกับภาษี
- ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท
- ใบกำกับภาษีเต็มรูปต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
- ขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้
- ขายให้กับลูกค้าที่ไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร
คือ เอกสารสำคัญที่ผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ผู้ขายที่จด VAT) จะต้องออกให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือบริการทุกครั้ง เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่คิดกับลูกค้า และภาษีที่เก็บเพิ่มจากราคาสินค้าหรือบริการที่คิดกับลูกค้า (VAT) ซึ่งฝั่งผู้ซื้อก็จะนำเอกสารนี้ไปใช้เป็นภาษีซื้อ ส่วนผู้ขายเองก็เป็นหลักฐานในการทำภาษีขาย
โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจากราคาขาย ในกรณีเราเป็นคนขายหรือให้บริการนั้นเรียกว่า “ภาษีขาย หรือ Output VAT” แต่หากคุณไปซื้อสินค้าหรือบริการที่ผู้ขายคิดภาษีมูลค่าเพิ่มและเราได้รับเอกสารใบกำกับภาษีมา ส่วนของภาษีที่จ่ายไปจากราคาสินค้าหรือบริการนั้นเรียกว่า “ภาษีซื้อ หรือ Input VAT” นั่นเองครับ
กรณีที่เป็นนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ 1 ใน 5 ของภาษีที่ต้องเสียให้สรรพากรเท่านั้น 4 ตัวที่เหลือที่ต้องจ่ายมีอะไรบ้าง ศึกษาได้ที่นี่ครับ
แล้วภาษีมูลค่าเพิ่มถูกนำไปใช้ประโยชน์อะไรกับประชาชน
ผลจากการจ่ายภาษีของประชาชนไม่เพียงแค่ทำให้ประเทศชาติมีงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ผลประโยชน์อีกนานัปการที่ประชาชนจะได้กลับไปในรูปแบบของสวัสดิการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งนี่คือผลดีที่ประชาชนจะได้จากการชำระภาษี เพราะสุดท้ายเงินภาษีที่ชำระมาคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพลเมืองในด้านต่างๆ โดยภาครัฐจะเป็นผู้จัดสรรตามความเหมาะสมนั้นเอง โดยจะถูกจัดสรรไปเป็นงบประมาณตามลักษณะงาน ดังนี้ (อิงตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี)
- งบการศึกษา
- งบสวัสดิการผู้สูงอายุ
- งบด้านความมั่นคง
- งบการขนส่ง
- งบสาธารณสุขอื่น (รวมถึงนโยบายบัตรทอง)
- งบโรงพยาบาล
- งบตำรวจ
- งบในลักษณะงานอื่นๆ
ใครเป็นคนที่มีหน้าที่จัดทำใบกำกับภาษี
กิจการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ไม่ว่าการประกอบกิจการนั้นจะอยู่ในรูปแบบบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ตาม แต่ว่าสำหรับกรณีที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทหรืออยู่ในธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็อาจจะเลือกได้ว่าจะจดหรือไม่ก็ได้ ซึ่งมีข้อดีและข้อควรพิจารณาแตกต่างกันไปครับ
ออกใบกำกับภาษีได้เมื่อไหร่
- กรณีการขายสินค้า ผู้ขายมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อทันทีเมื่อมีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ (แม้ว่าผู้ซื้อจะยังไม่ได้จ่ายค่าสินค้าก็ตาม)
- กรณีการให้บริการ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อได้รับชำระค่าบริการ จะเห็นได้ว่าจุดนี้มีความแตกต่างจากการขายสินค้าเลยทีเดียวครับ เนื่องจากการให้บริการนั้นไม่สามารถจับต้องได้เหมือนสินค้าจึงใช้จุดของการจ่ายเงินเป็นเกณฑ์
ผู้ที่ห้ามไม่ให้ออกใบกำกับภาษี
- ผู้ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
แน่นอนครับ เนื่องจากใบกำกับภาษีเป็นผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจด VAT ดังนั้นผู้ประกอบการที่ไม่ได้จด VAT ออกใบกำกับภาษีไม่ได้นะครับ และรวมไปถึงใบกำกับภาษีที่ได้รับจากคนที่ไม่ได้จด VAT ก็ไม่ถือเป็นใบกำกับภาษีที่ใช้ได้ตามกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นถ้าเราไปได้รับใบกำกับภาษีมาจากผู้ขายที่ไม่ได้จด VAT ก็ให้ระวังไว้ด้วยว่าอย่านำไปใช้ ไม่งั้นเราเองนี่แหละจะโดนค่าปรับ - ผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่ได้มีการขายสินค้าหรือให้บริการจริง
ผู้ประกอบการที่จด VAT จริง แต่ว่าไม่มีการขายสินค้าหรือให้บริการจริง ก็ไม่ได้สามารถออกใบกำกับภาษีได้ และใบกำกับภาษีที่ได้รับมาก็ไม่สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้เช่นกัน หรืออันที่เขาเรียกกันว่า “ใบกำกับภาษีปลอม” นั่นเอง
การออกใบกำกับภาษีปลอมนั้น เป็นอันตรายต่อทั้งผู้ที่ออกและผู้ที่นำเอาภาษีซื้อนั้นไปใช้ เพราะว่าจะมีความผิดทั้งผู้ออกและผู้ที่ใช้ภาษีซื้อ และมีโทษจำคุกอีกด้วย ไม่ใช่แค่โทษปรับเพียงอย่างเดียว
ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท
มีอยู่ 2 ประเภทหลัก คือ
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
- ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
แล้วอีกเรื่องที่คนสงสัยกันเยอะก็คือ “ใบเสร็จรับเงินและบิลเงินสดต่างกันหรือเปล่า” สามารถหาคำตอบเพิ่มได้ที่นี่
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
ใบกำกับภาษีเต็มรูปต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
- เห็นคำว่า “ใบกำกับภาษี” ชัดเจน
- มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี รวมถึงชื่อและที่อยู่ของผู้ขาย
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ
- เลขที่ใบกำกับภาษี
- ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และจำนวนเงิน
- แยกแสดงจำนวน VAT แยกให้เห็นชัดเจน
- วัน เดือน ปี ที่ออก
- ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด บังคับใช้กับผู้ประกอบการ
- ระบุ “สำนักงานใหญ่”หรือ“สาขาที่…..” ของผู้ขาย
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ (โดยเฉพาะผู้ซื้อที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ระบุ “สำนักงานใหญ่”หรือ“สาขาที่…” ของผู้ซื้อ
ขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้
การขายสินค้า หรือให้บริการรายย่อยที่มีมูลค่าครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท ถ้าลูกค้าไม่ได้ขอ ก็ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีก็ได้ (ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ) โดยที่
- ผู้ขายสินค้า หรือให้บริการ ไม่เคยมีฐานภาษี (รายได้) ในเดือนใดถึง 300,000 บาท
- ผู้ขายสินค้า หรือให้บริการ ที่มีสถานประกอบการเป็นรถเข็น แผงลอย
- การให้บริการการแสดง การเล่น กีฬา ที่มีการขายตั๋วให้กับผู้เข้าชม หรือผู้เข้าร่วมแข่งขัน
- การประกอบกิจการโทรศัพท์สาธารณะ
- การประกอบกิจการทางพิเศษ หรือทางหลวงสัมปทาน
- การประกอบกิจการสนามบิน
- การประกอบการกิจการขนส่งมวลชน
- การขายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานบริการน้ำมัน
ขายให้กับลูกค้าที่ไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการให้ข้อมูลเลขที่บัตรประชาชนในการซื้อขาย เจ้าของกิจการยังมีหน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีเต็มรูปเหมือนเดิม (หรือออกใบกำกับภาษีอย่างย่อหากเป็นลูกค้ารายย่อย) แต่สำหรับข้อมูลผู้ซื้อนั้นเพียงแค่ระบุชื่อและที่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งในทุกๆ ครั้งต้องมีข้อมูลชื่อและที่อยู่ หากมีไม่ครบถ้วนถือว่ามีโทษปรับด้วยนะครับ ดังนั้นอาจจะกำหนดให้มีแบบฟอร์มเล็กๆ ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลให้เรา เพื่อที่จะได้ออกเอกสารได้อย่างถูกต้องครบถ้วนครับ
หากอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วยังรู้สึกสงสัยการจัดเก็บหรือออกใบกำกับภาษีอยู่ สามารถปรึกษาเราได้เลยนะครับ ว่าต้องออกและจัดเก็บอย่างไรให้ถูกต้องและสามารถเอามาใช้ได้จริงในขั้นตอนการจัดทำบัญชีและยื่นภาษี ที่ Line ID : plusitiveaccounting
บทความโดย Flowaccount และ Peakaccount
เรียบเรียงโดย Plusitive Accounting Team